วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

ประโยชน์จาก Youtube


เห็นลิงสูบบุหรี่ในขณะที่ขี่จักรยานและดูเด็กน่ารักว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ก็ไม่ควรว่ามีทั้งหมดมาใช้คุ้มค่าสำหรับ YouTube.com

สิ่งที่บางคนไม่ทราบเป็นเหตุผลหนึ่งปฏิบัติในการใช้ทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีต่อสาธารณชน พวกคุณมีกี่ครั้งแล้วใช้ปลายสำหรับอาหารค่ำอย่างเป็นทางการต้องเหมาะสมและเสมอและเมื่อคุณกดปุ่มปุ่มขึ้นปกล่าสุดที่คุณรู้ว่าคุณไม่จำกริ๊งคาด ก่อนหน้านี้คุณจะต้องถามเพื่อนบ้านหรือคนอื่น ๆ คุณไม่เพียง แต่ยังรบกวนพวกเขากลายเป็นช้ากว่าคุณแล้วมี

เช่นสนุกเป็นวันที่มีขอบคุณแอดเวนต์ของ YouTube ที่ปลายชุดกีฬาผู้หญิงสามารถไปออนไลน์และดูวิดีโอขั้นตอนการกวดวิชาในการผูกเหลือเฟือประเภทต่างๆ knots ทำให้พวกเขาเพื่อให้การหมั้นโดยไม่มี เป็นแฟชั่นสาย

แม้ว่ามูลค่าความบันเทิงของ YouTube เป็นที่สิ้นสุดและรำลึกของรายการโทรทัศน์คลาสสิก"America 's funniest Home Videos"มันยังคงจุดประสงค์การปฏิบัติที่สามารถใช้ทุกคน

จากประสบการณ์ส่วนตัว, YouTube ได้ช่วยฉันในจำนวนมากมายหลายวิธีตั้งแต่ล้มเหลวเสมอเพื่อโครงการ ตัวอย่างเช่นคุณเคยมีในชั้นเรียนที่อาจารย์จะพยายามสอนวิธีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์บางแม้เขา / เธอไม่สมบูรณ์แน่ใจว่าวิธีการใช้งานเฉพาะได้กำหนดให้โครงการที่ต้องการคุณ ทราบโปรแกรมที่แล้วคุณนั่งลงในคอมพิวเตอร์หรือสองวันต่อมาและจำไม่ได้ว่าวิธีใส่ที่ตัวแปรในโปรแกรม พวกเขาเล็งเห็นคนอื่นมีปัญหาเดียวกันซึ่งมีผลต่อเขาหรือเธอจะสร้างวิดีโอสอนวิธีการทำสิ่งที่คุณต้องทำ

คิดว่าหลายคนมีชื่อเสียงมากขึ้นสำหรับทำสิ่งที่งี่เง่าและการโพสต์พวกเขาในอินเตอร์เน็ตกว่านักแสดงฝึกอบรมถูกต้องตามกฎหมายและหญิงที่มีพื้นฐานชีวิตที่พยายามจะเป็นที่มีชื่อเสียง ก็มาถึงจุดที่จะมีชื่อเสียงเป็นง่ายเป็นช่วงเวลาจับตรงไปตรงมาในเทปและไม่ได้อึดอัดใจของเจ้านายของคุณอาจจะเห็นมัน

youtube คืออะไร



Youtube คืออะไร

เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำเทคโนโลยีของ Adobe Flash มาใช้ในการแสดงภาพวิดีโอ ซึ่งยูทูบมีนโนบายไม่ให้อัปโหลดคลิปที่มีภาพโป๊เปลือยและคลิปที่มีลิขสิทธิ์ นอกเสียจากเจ้าของลิขสิทธิ์ได้อัปโหลดเอง
เมื่อสมัครสมาชิกแล้วผู้ ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพวิดีโอให้คนอื่นดูด้วย แต่หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน Youtube ได้ แม้จะก่อตั้งได้เพียงไม่นาน (youtube ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005) Youtube เติบโตอย่างรวดเร็วมาก เป็นที่รู้จักันแพร่หลายและได้รับความนิยมทั่วโลก ต่อมาปี ค.ศ.2006 กูเกิ้ลซื้อยูทูบ ตอนนี้ยูทูบจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ลแล้ว

วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

e-mail คืออะไร


อีเมล์ E Mail หรือ Electronics Mail แปลตรง ๆ ตัวก็คือ ไปรษณีย์อีเลคโทรนิคส์ นั่นเอง ดังนั้น ความหมายง่าย ๆ ของอีเมล์ ก็คือ เป็นเครื่องมือสำหรับติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันโดยที่จากเดิม เราอาจจะใช้วิธีการส่งข้อความ ไปหาผู้อื่นด้วยการเขียนเป็นจดหมาย และส่งผ่านทางไปรษณีย์ แต่ในโลกของอินเตอร์เน็ต จะมีบริการที่เรียกว่า อีเมล์ ซึ่งสามารถทำการส่งข้อความต่าง ๆ ไปยังผู้รับปลายทาง (ที่ใช้บริการอีเมล์) ได้ และในปัจจุบันนี้ ยังสามารถทำการแนบ ไฟล์เอกสาร ของคอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพต่าง ๆ ไปอับอีเมล์ได้ด้วย จึงทำให้เพิ่มความ สะดวกสบายได้มากขึ้น หากคุณเป็นผู้หนึ่ง ที่ใช้งานหรือเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็ควรที่จะหาสมัครใช้บริการ อีเมล์ ทิ้งไว้สักชื่อหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ก็พอที่จะเอาไปอวดใคร ๆ ได้ว่า ฉันก็มีอีเมล์เหมือนกันนะ

โครงสร้างและรูปแบบของชื่ออีเมล์ในเบื้องต้น

ถ้าใครได้เคยเห็นรูปแบบ และชื่อของอีเมล์มาบ้างแล้ว ลองมาทำความเข้าใจกับ ระบบการตั้งชื่ออีเมล์กันก่อน สมมติว่าใครคนหนึ่ง บอกอีเมล์ของเขามาว่า somchai@hotmail.com (อ่านออกเสียงว่า สมชาย-แอต-ฮอทเมล์ ดอทคอม) เครื่องหมาย @ จะออกเสียงว่า "แอต" ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ใช้คั่นอยู่ระหว่าง ชื่อและ server ของอีเมล์นั้น ๆ เสมอ ชื่อของ server ที่ลงท้ายนี้ อาจจะเปลี่ยนไปได้ตามชื่อของ server ที่เปิดให้บริการอีเมล์นั้น ๆ ด้วยเช่น อาจจะลงท้ายด้วย @yahoo.com @thailand.com @mail.com หรืออะไรก็ได้ครับ ที่มีเปิดให้บริการ

ประเภทต่าง ๆ ของอีเมล์ ที่มีเปิดให้บริการฟรี

เว็บไซต์ที่ให้บริการ ฟรีอีเมล์ มีอยู่มากมาย แต่ถ้าหากจะแยกประเภทของการใช้งาน สามารถแยกออกได้เป็น 2 แบบดังนี้

Web Base Mail เช่น อีเมล์ของ hotmail.com, chaiyo.com หรือ email.in.th ซึ่งหากต้องการใช้งานอีเมล์เหล่านี้ จะต้องใช้งานโดยผ่านทางหน้าเว็บเพจเท่านั้น ข้อดีคือ สามารถไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไหนเปิดอ่านอีเมล์นั้นก็ได้ โดยการเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์นั้น ไม่ต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ให้ยุ่งยาก แต่อาจจะช้าและเสียเวลานาน ในการอ่านหรือรับส่งอีเมล์ ขอ้ดีของบริการอีเมล์แบบ Web Base Mail คือ ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในการอ่านหรือรับส่งอีเมล์ ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์

POP Mail เช่น yahoo.com จะมีบริการการอ่านอีเมล์แบบ POP Mail ได้ด้วย ซึ่งโดยส่วนมากก็มักจะใช้งานในลักษณะของ เว็บเมล์ได้ด้วย หากเราเลือกใช้งานอีเมล์ที่มีบริการ POP Mail ก็จะทำให้สามารถตั้งโปรแกรมสำหรับ รับ-ส่งอีเมล์ทั่ว ๆ ไปเช่น Outlook ให้ทำการอ่านอีเมล์แบบนี้ได้ และจะเป็นการสะดวกมากกว่าการใช้งานแบบ Web Base Mail มากครับ แต่ก็ต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ของโปรแกรมที่ใช้รับ-ส่งอีเมล์ก่อน จึงจะใช้งานได้ โดยที่เมื่อทำการต่อหรือเปิดโปรแกรม สำหรับการอ่านอีเมล์ โปรแกรมจะต้องทำการ ดาวน์โหลด อีเมล์ทั้งหมดมาเก็บไว้ใน ฮาร์ดดิสก์ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน ทำให้เปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ไปบางส่วน แต่ว่าการอ่าน จะสามารถทำได้รวดเร็วและสะดวกกว่าการใช้ Web Base Mail

มาทำความรู้จักความหมายย่อ ๆ ของคำที่เกี่ยวกับเมล์กันก่อน

SMTP (Simple Mail Transfer Protocol)

เป็นโปรโตคอลแบบ TCP/IP ที่ใช้ในการรับส่ง email ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องของความสามารถในการรับส่ง mail ว่ามันสามารถทำได้แบบเป็นคิวเท่านั้น จึงทำให้เกิดโปรโตคอลที่จะมาแก้ไขในเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ POP กับ IMAP แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่า SMTP จะมีข้อจำกัดในการรับ mail แต่สำหรับการส่ง mail หลาย ๆ โปรแกรมก็ยังคงนิยมใช้ SMTP ในการส่ง mail อยู่เช่นเดิม

POP (Post Office Protocol)

เป็นโปรโตคอลที่ใช้รับ mail ซึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็น POP version 3 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า POP3 ซึ่งจะมีการทำงานแบบ Store-and-Forward ซึ่งไม่ควรนำไปสับสนกับ SMTP เพราะ POP จะใช้ในการรับ mail เท่านั้น ส่วน SMTP จะใช้ในการส่ง mail

IMAP (Internet Message Access Protocol)

เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับรับ mail จาก server ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ IMAP version 4 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IMAP4 ซึ่งจะมีความสามารถในการเลือกเฉพาะ header กับ sender หรือสิ่งที่เราต้องการได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลือก download เฉพาะ mail ที่เราต้องการได้ด้วย แต่ IMAP ก็ต้องอาศัยการติดต่อกับ server มากกว่า POP

คำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบการ รับ-ส่ง อีเมล์

คำศัพท์แบบมาตราฐานทั่ว ๆ ไป ที่มักจะนิยมใช้ในการใช้งาน อีเมล์ มีดังนี้

Inbox หมายถึงกล่องหรือที่สำหรับเก็บอีเมล์ ที่มีผู้ส่งเข้ามา
Outbox หมายถึงกล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่กำลังจะส่งออกไปหาผู้อื่น
Sent Items หมายถึงกล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่เราได้เคยส่งออกไปหาผู้อื่นแล้ว
Delete Items หมายถึงกล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่ได้ทำการลบทิ้งจาก Inbox แต่ยังเก็บสำรองไว้อยู่
Drafts หมายถึงกล่องหรือที่เก็บอีเมล์ สำหรับใช้เก็บอีเมล์ต่าง ๆ ชั่วคราว ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
Compose หรือ New Mail จะเป็นการส่งอีเมล์ใหม่ ไปหาผู้อื่น
Forward จะเป็นการส่งต่ออีเมล์ ที่ได้รับมานั้นไปหาผู้อื่น
Reply จะเป็นการตอบอีเมล์ ที่มีผู้ส่งมาถึงเรา
Reply All จะเป็นการตอบอีเมล์ ที่มีผู้ส่งมาถึงเรา และส่งกลับไปให้ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในอีเมล์ฉบับนั้น
Subject หมายถึงหัวข้อของอีเมล์ที่เราจะเขียนหรือส่งออกไป
To หมายถึงชื่อหรืออีเมล์ ของผู้ที่เราต้องการส่งอีเมล์ไปหา
CC หมายถึงการส่ง copy อีเมล์นั้น ๆ ไปให้ผู้อื่นที่ต้องการด้วย
BCC หมายถึงการส่ง copy อีเมล์นั้น ๆ ไปให้ผู้อื่นที่ต้องการ และไม่ให้ผู้รับคนอื่นมองเห็นว่า มีการส่งไปให้ในช่อง BCC ด้วย
Attach หมายถึง การแนบไฟล์เอกสาร หรือโปรแกรมต่าง ๆ ไปกับอีเมล์ฉบับนั้น
Address Book หมายถึงสมุดรายชื่อของอีเมล์ต่าง ๆ ที่เราสามารถเก็บไว้ เพื่อให้นำมาใช้งานได้ง่ายขึ้น

msn คืออะไร


MSN Messenger คืออะไร? อยากรู้ก็ลองอ่านดูนะคะ เจ้า MSN MESSENGER หรือที่ เราชอบเรียกกันว่า MSN เนี่ย มันก็คือ โปรแกรมส่งข้อความข้าม ระบบเน็ทเวิร์ค แบบทันทีทันใดไงล่ะคะ เราสามารถสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับความสะดวกและรวดเร็วค่ะ (^w^)

ทำไมเจ้า MSN ถึงยอดฮิต? เหตุผลที่เจ้า MSN ยอดฮิตก็เนื่องจากความง่ายของการใช้งาน เพียงคุณแค่มี E-MAIL ของ HOTMAIL หรือ MSN คุณก็สามารถเล่นเจ้า MSN ได้ทันที แถมมันยังผนวกกับ E-MAIL ของเราซะอีกนะคะ โดยที่..เมื่อใดก็ตามที่มีเมล์ เข้ามาถึงเรา เจ้า MSN มันก็จะแจ้งให้คุณทราบทันที นอกจากนั้น ความเร็วของการรับและส่งข้อความระหว่างกันก็ทำได้อย่างรวดเร็วด้วย หน้าตาโปรแกรมที่สวยงาม แถมเวอร์ชันใหม่ เรายังสามารถใส่รูปของเราได้หลากหลายอีกด้วย! แจ๋วจริงๆเลย (^0^)

Webboard คืออะไร


เว็บบอร์ด คือลักษณะของเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนบทสนทนา การพูดคุย การอภิปรายในสังคมออนไลน์ นอกจากชื่อเว็บบอร์ดแล้ว ยังมีเรียกกันหลายชื่อไม่ว่า กระดานข่าว กระดานข่าวสาร กระดานสนทนา กระดานสนทนาออนไลน์ ฟอรัม เว็บฟอรัม เมสเซจบอร์ด บุลลิทินบอร์ด ดิสคัชชันบอร์ด ฯลฯ หรือเรียกอย่างสั้นว่า บอร์ด ก็มี

เรื่องราวที่มีการพูดคุยในแต่ละเว็บบอร์ดจะมีการแตกต่างกันไปในแต่ละเว็บบอร์ด บางเว็บบอร์ดจะมีหลายหัวข้อโดยแบ่งแยกย่อยออกไปเช่นที่ปรากฏได้แก่ เครกส์ลิสต์ กูเกิล กรุ๊ปส์หรือ ยาฮู! รู้รอบ หรือตัวอย่างในเว็บบอร์ดไทยได้แก่ พันทิป ประมูล และ เอ็มไทย และหลายเว็บบอร์ดมีเรื่องพูดคุยเฉพาะทางตัวอย่างเว็บบอร์ดไทยอาทิ ไทยแวร์ นาริสา ในด้านคอมพิวเตอร์ หรือ Soccersuck ในด้านฟุตบอล Thaigaming ในด้านวิดีโอเกม ส่วนเว็บบอร์ดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคือ


ผู้ใช้งาน
เราสามารถจำแนกผู้เข้าใช้งานกระดานข่าวสารได้เป็น 4 ส่วนตามลักษณะสิทธิของการเข้าถึง คือ

1.ผู้ดูแลระบบสูงสุด - ผู้ที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าทุกคนและมีสิทธิพิเศษที่ผู้อื่นไม่มี คือ การลบผู้ใช้งานที่อยู่ระดับต่ำกว่าตนเอง เป็นต้น
2.ผู้ดูแลระบบทั่วไป - ผู้ที่เข้าไปจัดการกับกระทู้ต่างๆให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การย้ายกระทู้ไปในหมวดที่ถูกต้อง ลบกระทู้เก่าๆ เป็นต้น
3.ผู้ใช้ที่เข้าระบบโดยการกรอกชื่อและรหัสผ่าน - ผู้ใช้งานที่มีสิทธิบางอย่างเหนือกว่ามากกว่าผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้แก่ การแก้ไขคำตอบกระทู้ และการลบกระทู้ของตัวเอง เป็นต้น
4.ผู้ใช้ที่ไม่ประสงค์ออกนาม - ผู้ที่ไม่ได้เข้าระบบโดยการกรอกชื่อและรหัสผ่าน จะไม่ได้รับสิทธิบางประการ เช่น การแก้ไขตอบกระทู้ ลบกระทู้ของตัวเอง เป็นต้น
ผู้ใช้ที่ไม่ประสงค์ออกนามมีสิทธิพิเศษบางอย่างที่ไม่เป็นที่พึงต้องการ คือ การก่อกวนกระทู้หรือการปั่นกระทู้ แต่ผู้ดูแลระบบก็สามารถระงับการก่อกวนกระทู้ได้โดยการใช้บทลงโทษที่ได้กำหนดเอาไว้แล้วในส่วนของผู้ควบคุมระบบ

ผู้ให้บริการ
ผู้ให้บริการเว็บบอร์ดสามารถมีเว็บบอร์ดของตัวเองได้หลายวิธีไม่ว่า เขียนโปรแกรมสร้างเว็บบอร์ดของตัวเอง ใช้ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว หรือขอบริการติดตั้งเว็บบอร์ดส่วนตัวผ่านผู้ให้บริการ

ตัวอย่างผู้ให้บริการเว็บบอร์ดส่วนตัว
กูเกิล กรุ๊ปส์
แพนทาวน์ ของพันทิป


เว็บบอร์ดซอฟต์แวร์

เว็บบอร์ดซอฟต์แวร์ หรือ เว็บบอร์ดสำเร็จรูป เป็นซอฟต์แวร์ในลักษณะของระบบจัดการเนื้อหาเว็บ ที่สามารถนำมาสร้างเว็บบอร์ดได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างเว็บบอร์ดของตนเองหรือสร้างเว็บไซต์แต่อย่างใด โดยนอกจากนี้ซอฟต์แวร์บางตัวสามารถเปลี่ยนหน้าตาที่เรียกว่าธีมได้ รวมถึงเพิ่มความสามารถพิเศษให้เว็บบอร์ดเพิ่มขึ้น

ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันทีโดยผู้ใช้ ซึ่งซอฟต์แวร์บางส่วนเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ซึ่งผู้พัฒนาสามารถนำมาปรับแก้ เป็นของตนเอง ติดตั้งไว้ใช้เป็นเว็บบอร์ดส่วนตัว หรือเผยแพร่ให้คนอื่นมาใช้งานได้ ส่วนซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์นั้น จะมีทั้งในรูปแบบที่ให้ใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่ายหรือให้ใช้งานฟรี

เว็บบอร์ดซอฟต์แวร์ที่เป็นที่นิยมพร้อมทั้งชื่อซอฟต์แวร์ที่ใช้พัฒนาในวงเล็บ

phpBB (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
vBulletin (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
Invision Power Board (IPB) (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
Simple Machines Forum (SMF) (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
YaBB (เพิร์ล/แฟลตไฟล์)
UseBB (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
Discuz (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)
PHPWind (พีเอชพี/มายเอสคิวแอล)


blog คืออะไร


มารู้จักความหมาย ของประโยคคำถาม ที่มักจะมีคนถามผมบ่อย ๆ เวลาไปบรรยายตามที่ต่าง ๆ ว่า “Blog คืออะไร” กันดีกว่าครับ
Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)

ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเอง ใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง

มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเ�� ทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเ�� ท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเ�� ท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิต�� ัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถ แตกแขนงไปในเนื้อหาในประเ�� ทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ความถนัดของเจ้าของบล็อก ซึ่งมักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น

จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง

ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น

ผู้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก หันมาเขียน Blog กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่นักเรียน อาจารย์ นักเขียน ตลอดจนถึงระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น NasDaq

เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจาก การเขียนเป็นงานอดิเรก ของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ ให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูล ตั้งแต่เรื่องการเมือง ไปจนกระทั่ง เรื่องราวของการประชุม ระดับชาติ

และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ ที่สำคัญอย่างแท้จริง

สรุปให้ง่าย ๆ สั้น ๆ ก็คือ Blog คือเว็บไซต์ ที่มีรูปแบบเนื้อหา เป็นเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี link ไปยังเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย